รู้หลักการเขียนบทความและคีย์เวิร์ด ก่อนเริ่มทำ SEO

Content is King

นักเขียนมืออาชีพเขียนเรื่องราวดี ๆ ใช้ถ้อยคำสละสลวยน่าอ่าน ศิลปะในการเขียนกระตุ้นให้ผู้อ่านอยากรู้อยากเห็น สนใจอยากทดลองใช้สินค้าหรือบริการนั้น แต่การเขียนบทความได้น่าประทับใจอย่างเดียวไม่เพียงพอสำหรับการทำตลาดออนไลน์แบบ SEO ต้องเรียนรู้หลักการใช้งานคีย์เวิร์ดในบทความเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายหาเจอง่ายและคลิกเข้ามาอ่านจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลดีต่อการจัดอันดับของ Google ให้เว็บอยู่ในหน้าแรก ๆ ของการค้นหา เป็นขั้นตอนสำคัญของการทำตลาดที่จำเป็นต้องรู้

การทำ SEO บนเว็บไซต์ธุรกิจควรเริ่มจากการมองหาคีย์เวิร์ดหลักนำมาใส่ในทุกบทความ ส่วนคีย์เวิร์ดรองและวลีจะอธิบายผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการอย่างเจาะจง รวมถึงเป็นคำที่ทำให้ผู้ค้นหาเจอเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น นักเขียนต้องรู้ว่าจะต้องใส่คีย์เวิร์ดตรงตำแหน่งไหนบ้าง เช่น ชื่อเว็บไซต์ ชื่อบทความและหัวข้อย่อย ในบทแรกของเนื้อหา เป็นส่วนที่ผู้ค้นหาจะพบเจออย่างรวดเร็ว

วิธีการเลือกคีย์เวิร์ดหลัก ถ้าทำธุรกิจมานานจนเป็นที่รู้จักพอสมควรแล้ว อาจจะใช้ชื่อแบรนด์เป็นคีย์เวิร์ดหลักก็ได้ ในกรณีของธุรกิจสตาร์ทอัพที่เพิ่งเริ่มกิจการ แนะนำให้ใช้คีย์เวิร์ดที่ตรงกับคำที่กลุ่มเป้าหมายค้นหาในเสิร์จเอนจิน วิเคราะห์ว่าลูกค้าค้นหาอะไรและดูคำที่ใกล้เคียงเพื่อสร้างวลีขึ้นมา เขียนให้มีความกระชับ สละสลวย แต่ชัดเจนอยู่ในที ทำให้ทราบว่าเว็บไซต์มีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร ใช้ถ้อยคำที่ชูจุดเด่น เช่น รวดเร็ว ใหม่ล่าสุด สะดวก สะอาด เพื่อดึงดูดให้สนใจคลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติม

หลักการเขียนชื่อเรื่องและหัวข้อย่อยจะต้องกระตุ้นความสนใจ พร้อมทั้งให้ข้อมูลสำคัญในเวลาเดียวกัน โดยปกติการตั้งชื่อบทความที่มีคีย์เวิร์ดหลักส่งผลต่อ SEO อยู่แล้ว การเพิ่มหัวข้อย่อยและแทรกรูปภาพที่ตั้งชื่อด้วยคีย์เวิร์ดที่ตรงกันก็ส่งผลต่อ SEO เช่นเดียวกัน ทั้งยังช่วยให้อ่านง่ายสบายตาขึ้นด้วย เนื่องจากผู้ใช้ส่วนใหญ่อ่านข้อมูลจากสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์มือถือมากขึ้นกว่าแต่ก่อน นักเขียนควรปรับเนื้อหาของบทความให้กระชับ อ่านง่ายบนมือถือ ไฟล์ภาพคมชัดแต่ไม่ใหญ่เกินไปจนทำให้หน้าเว็บโหลดช้า หากเป็นไปได้ควรปรับสไตล์การเขียนให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย ถ้าลูกค้าชอบดูวิดีโอมากกว่าอ่านข้อความยาว ๆ อาจทำคลิปสั้น ๆ ที่ไฟล์ไม่ใหญ่เกินไป ทำให้ลูกค้ากดเข้าดูง่ายและได้ข้อมูลสำคัญครบถ้วนในเวลาไม่กี่วินาที

เนื้อหาบทความจะต้องมีโฟกัสที่ชัดเจน เลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมเพื่อทำลิงก์เชื่อมโยงภายในเว็บ ช่วยให้ลูกค้าค้นหาบทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทำให้ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมได้ตามต้องการ การใส่คีย์เวิร์ดต้องกระจายไปทั่วเนื้อหาอย่างเหมาะสม ไม่มากหรือน้อยเกินไป ในบทความที่มีความยาว 500 คำ ใส่คีย์เวิร์ดประมาณ 3 ครั้ง ไม่รวมในชื่อเรื่องและหัวข้อย่อย งานเขียนที่มีคุณภาพจะขายตัวเองได้ก็จริง แต่การทำ SEO จะช่วยเพิ่มอันดับให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ถือเป็นเครื่องมือการตลาดออนไลน์อีคอมเมิร์ชที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ